เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่คนทั้งประเทศและชาวโซเชียลต่างให้ความสนใจ และออกความคิดเห็น ตรงนี้ต้องบอกว่า ในส่วนของสถานการณ์รอบที่ 3 นั้นไม่ว่าใครก็ได้รับผลกระทรบกันหมดทั่วหน้า
ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน รวมไปถึง เชิงพานิชย์ และเกษตรกร ก็ได้รับผลกระทบกันทั้งสิน ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนหลายมาตรการ และต้องยอมรับว่าวินาที่นี้ ช่วยได้มากจริงๆ
อแต่ทว่า ในส่วนของ บางกลุ่ม ที่ไม่ได้รับบการชล่วยเหลือนั้น อาจจะมี ในส่วน ของสวัสดิการของอาชีพอยู่แล้ว เช่นข้าราชการ แต่ตรงนี้ถือว่าดีมาก ถ้าเกิดว่า ในส่วนของการช่วยเหลือทั้งทั่วถึงทั้งประเทศอยา่าเหมาะสม
ล่าสุด ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการได้รับ เงินเยียวยา จากรัฐบาลในทุกโครงการที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติcv-19 โดยระบุว่า มีบัตรประชาชนไทย ควรได้เงินช ดเช ยเท่ากันทุกคน
1. รัฐบาลไทยใช้ เงินเยียวยา จำนวนมากถึง 1.9 ล้านล้านบาท คิดเป็น 11.4% ของผลผลิตของชาติ (GDP) เพื่อแก้วิกฤติ โดยเป็นเงินกู้ถึง 1 ล้านล้า นบา ท ประชาชนไทยทุกคน ต้องร่วมกันเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะต้องเก็บภาษีในอนาคตมาใช้คืน
2. รัฐบาลมีเป้าหมายกู้เงิน เพื่อมาชดเชย เป็น เงินเยียวย า ประชาชน 600,000 ล้านบาท และฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท
3. วิธีการจ่าย เงินเยียวย าเราไม่ทิ้งกัน ของรัฐบาล มีเงื่อนไขยุ่งยากมาก ชดเชยประชาชนแต่ละคนไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน
4. การชดเชยแรงงา น ในระบบประกันสังคมก็ยิ่งยุ่งยากใหญ่ ล่าช้าและไม่เท่าเทียม
5. การชดเชยเกษตรกร หรือเงิน เยียวยาเกษตรกร กลับชดเชยให้เป็นต่อครอบครัว ซึ่งลักลั่นกับกรณีเยียวยา
6. กรณีนี้ เหตุเกิดจากวิกฤติ ทั่วโลก ประชาชนไทยทุกคนได้รับผลกระทบ รัฐบาลจึงควรชดเชยและจ่าย เงินเยียวยา ทุกคน เท่ากัน ทันที ไม่ยุ่งยาก ไม่ล่าช้า ไม่มีเงื่อนไขมาก การให้เงินชดเชยไม่เท่ากันนั้นไม่เป็นธรรม
ขอขอบคุณ thebangkokinsigh