สำหรับอาชีพชานนานนั้นเรียกได้ว่าเป็นอาชีพที่อยู่คู่คนไทยมานาน ซึ่งในส่วนของตรงนี้สำหรับอาชีพที่หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินนั้นไม่ๆได้เป็นอาชีพที่มีเกรียติแต่เป็นอาชีพที่ปลูกข้าวให้คนไทยและคนทั่วโลกได้กิน ทั้งนี้สำหรับบางท่านที่นั้งในสภานั้นก็โตมาจากชาวนาเหมือนกัน
ชาวนาในหลายพื้นที่ วอนนายกฯ ช่วยพยุงราคาข้าว ขยับราคาข้าวเปลือกสัก 10 บาทต่อกก.ก็ยังดี หลังลงทุนทำนา ต้นทุนสูงขึ้น แต่ราคาข้าวมีแต่ตกลง สวนทางกับราคาน้ำมัน ค่าจ้าง ค่าแรง ชาวนาแทบจะไม่ไหวแล้ว
หลังทราบข่าวว่าราคาข้าวเปลือก 5 บาท/กก. รู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะกว่าจะปลูกข้าวมาเป็นรวง เป็นเมล็ดข้าวสาร ต้องลำบากตรากตรำ บางพื้นที่ต้องเจอทั้งฝนแล้ง และน้ำท่วม ซึ่งการทำนาปัจจุบันต้องมีต้นทุนที่สูง ผลพวงมาจากราคาน้ำมันที่ราคาพุ่งไม่หยุด
ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ตนยังเป็นสาว ราคาน้ำมัน 5-7 บาท/ลิตร และสมดุลกับราคาข้าวเปลือกในขณะนั้นราคา 4-5 บาท/กก. แต่ตอนนี้มันต่างกันมาก
น้ำมันแพงส่งผลให้ปุ๋ยแพง ค่าแรงเกี่ยวข้าวแพง อะไรก็แพงไปหมด หากปีไหนหน้าแล้งก็ต้องซื้อน้ำมันมาสูบน้ำเข้านาเลี้ยงต้นข้าว และปีไหนถ้าฝนดีน้ำท่วมนา ก็ต้องซื้อน้ำมันมาใส่เครื่องสูบน้ำออก เพื่อไม่ให้ข้าวเน่าเสียหาย
อย่างเช่นวันนี้ต้องจ้างแรงงานมาช่วยเกี่ยวข้าว และจ้างรถสีข้าวเปลือก ตนไม่มีเงินจ้างก็ให้ข้าวเปลือก 1 ถุงปุ๋ย แลกกับค่าจ้าง
อยากฝากถึงท่านนายกฯ ว่าให้ช่วยชาวนา โดยการพยุงราคาข้าวเปลือกให้ชาวนา อย่ามัวแต่ไปพยุงราคาข้าวสารให้โรงสีและนายทุน สงสารชาวนาตาดำๆ บ้าง และไม่ได้ว่าท่านนายกฯ ไม่ดี ที่ผ่านมาท่านก็ทำดีที่สุดแล้ว
เสียงจากชาวนา