นักวิชาการ เสนอทางออก หยุดเรียนหนีCV-19 ทั่วประเทศ 1 ปี

สำหรับสถานการณ์Cv-19 ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนในช่วงนี้เป็นอย่างมาก ถือเป็น อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ปกครองและนักเรียนหลายคนเป็นกังวลไม่น้อย โดยศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการ ด้านการศึกษา มีการคาดการณ์ว่าต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์อย่างน้อย 1-2 ปีนั้น มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้จริง

ทั่วโลกมีการศึกษาเรื่องผลกระทบจากการเรียนออนไลน์ พบข้อมูลที่ตรงกันคือ ถ้าเด็ กต้องเรียนออนไลน์ จะเกิดความถดถอยทางการศึกษาประมาณ 20-50เปอร์เซนต์

ดังนั้น หากต้องให้เด็ กเรียนออนไลน์ต่ออีก 1 ปี เป็นทางเลือกที่ไม่เห็นด้วย การตัดสินใจที่จะให้เ ด็กเรียนออนไลน์ หรือรูปแบบอื่นนั้น

เป็นการตัดสินใจที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเ ด็ก และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำลังกลัว และตระหนกจนเกินไปศ.ดร.สมพงษ์กล่ าว

ศ.ดร.สมพงษ์ กล่ าวต่อว่า ระบบการศึกษาไทยเป็นระบบอนุรักษนิยม ที่ติดกรอบ ติดระเบียบไปหมด บวกกับความกลัวการแพร่กระจายของ CV19 ทำให้ระบบการศึกษาหดตัว ถดถอย

จึงกลายเป็นความกลัวเกินเหตุ ทำให้การจัดการศึกษาไม่ตอบสนองกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริง สถานศึกษาต้องปรับการเรียนการสอนตาม 5 รูปแบบที่ ศธ.กำหนด คือ

On-site, On-air, On-demand, On-line และ On-hand แทนการสอบปกติแทบทั้งหมด

ศ.ดร.สมพงษ์ กล่ าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่าเด็ กติด CV19 จำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่พบข้อมูลเ ด็กเ สีย ชี วิ ต จากการติด ดังนั้น อยากเสนอให้ ศธ.นำเงินสร้างโรงพยาบาลสนาม

หรือศูนย์พักคอยผู้ติด ในสถานศึกษา มาจัดซื้อ วั ค ซี น CV19 ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา และเด็ กทั่วประเทศจะดีกว่า ถ้า ศธ.ยังไม่หา วั ค ซี น มาให้เ ด็ ก และดึงเวลาโดยให้เ ด็กเรียนออนไลน์ จะสร้างความ เ ล ว ร้ า ย ต่อระบบการศึกษาของประเทศอย่างมาก

ศธ.กลัวเกินเหตุ แก้ไขปัญหาด้วยการหยุดเรียน หรือจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เหมือนกับ ศธ.กำลังปฏิเสธความรับผิดชอบ ที่ผ่านมา ศธ.ตัดสินใจโดยยึดว่าต้องไม่ให้เด็ กเสี่ยง หรือเกิดอัน ตรายกับเด็ ก แต่ผมว่า ศธ.ตัดสินใจโดยไม่ดูข้อมูลอย่างรอบด้าน และ ศธ.ไม่ไม่ได้เตรียมการอะไรเพื่อเด็ กเลย ได้แต่ตัดสินใจบนข้อมูลด้านเดียวเท่านั้น และการตัดสินใจของ ศธ.ที่ผ่านมา ก็ตัดสินใจบนฐานที่ต้องให้ถูกวิจารณ์น้อยที่สุด แต่ไม่มองโลกทัศน์ภายนอกของการศึกษาเลย แต่ถ้า ศธ.คลายล็อก เชื่อมั่นในระบบของครู และผู้บริหารโรงเรียน และจัดหาวัคซีนให้เด็ กทุกคน การเรียนการสอนจะหลากหลายมากขึ้น เด็ กสามารถเรียนในโรงเรียนได้ปกติ ศ.ดร.สมพงษ์กล่าว

ศ.ดร.สมพงษ์กล่ าวต่อว่า การเตรียมการที่ผ่านมาของ ศธ.ทำให้เห็นว่าการตัดสินใจต่างๆ ยึดส่วนกลางเป็นหลัก ไม่ได้ยึดโรงเรียน และเด็ กเป็นหลักเลย ศธ.มองแค่ว่าจะออกนโยบายอะไรที่จะได้รับแรงกระทบจากการเมืองให้น้อยที่สุดเท่านั้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดผลเสียต่อคุณภาพ ต่อชีวิต ต่อสุขภาพของนักเรียนอย่างมหาศาล ศธ.ได้คำนึงถึงส่วนนี้หรือไม่ มองว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ติดอยู่กับระบบราชการ ติดอยู่กับการทำงานที่ต้องได้รับกระแสวิพาษ์วิจารณ์ให้น้อยที่สุด ขอให้ น.ส.ตรีนุช อย่ากลัวเกินเหตุ ต้องกล้าตัดสินใจ ต้องคิดถึงผลเสียทางการศึกษาที่เกิดขึ้นกับเ ด็ก และตลาดแรงงานด้วย อย่าคิดแต่ว่าต้องออกนโยบายที่ทำให้ ศธ.อยู่รอดปลอดภัยจากการวิจารณ์เท่านั้น

น.ท.สุมิตร สุวรรณ รองคณบดีคณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) วิทยาเขตกำแพงแสน กล่ าวว่า หากต้องเรียนออนไลน์ต่ออย่างน้อย 1-2 ปี จะส่งผลกระทบต่อเด็ กในระดับปฐมวัย และประถมศึกษาอย่างมาก เพราะเด็ กเหล่านี้ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีได้คล่อง การเรียนต้องเน้นพัฒนาการเป็นหลัก แต่ถ้าเด็ กในระดับมัธยม ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ต้องเรียนออนไลน์ต่อ อาจไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าใด เพราะเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีอยู่ มองว่าการเรียนออนไลน์จะเหมาะกับกลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ แต่ไม่เหมาะกับวิชาที่ต้องฝึกปฏิบัติ วิชาคำนวณ วิชาวิทยาศาสตร์ที่ต้องทดลองเรื่องต่างๆ เพราะการเรียนออนไลน์เป็นเพียงแต่เสริมความสะดวกให้เด็ กสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลาเท่านั้น

ถ้าจะต้องเรียนออนไลน์ต่ออย่างน้อย 1-2 ปี ผมมองว่ารัฐควรจัดสรรคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ตให้เด็ กด้วย หากรัฐช่วยส่วนนี้ จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ ส่วนครูที่ต้องลงพื้นที่ตรวจดูนักเรียน ครูเหล่ านี้อาจพบปัญหา พบความลำบากที่ต้องเดินทางไปหาเ ด็ก ซึ่งต้องใช้เวลา และใช้แรงอย่างมาก ถ้าผู้ปกครองคนไหนดูแลลูกได้ ก็อาจช่วยครูโดยการดูแลให้ความรู้ลูก เพื่อให้ครูเข้าไปหาเ ด็กที่มีปัญหาจริงๆ และรัฐจะสามารถจัดสรรค่าเดินทางให้ครูที่ต้องลงพื้นที่หรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าในเวลานี้ครูทำงานมากน.ท.สุมิตรกล่ าว

น.ท.สุมิตรกล่ าวอีกว่า ทั้งนี้ จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่หยุดการเรียนการสอนไป 1 ปี เพราะถ้าต้องเรียนออนไลน์ต่อ การเรียนจะไม่มีประสิทธิภาพ และไม่มีคุณภาพ ซึ่งการหยุดเรียนทั้งระบบการศึกษา และเริ่มใหม่ในปีหน้า จะช่วยทำให้การเรียนการสอนมีคุณภาพ แต่หากหยุดเรียน 1 ปี จะมีผลกระทบเรื่องการเสียโอกาส และเสียเวลาด้วย ทั้งนี้ ไม่ว่ารัฐจะตัดสินใจอย่างไร ขอให้คำนึงถึงประโยชน์ของนักเรียนเป็นหลักด้วย

ขอบคุณ matichon