เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวโซเชียลต่างติดตามและต้อ งบอกว่า ในช่วง หลังสถาณการณ์ รอบที่ 2 ของ cvd 19 นั้นไม่ว่าง จะเป็นอาชีพอะไรก็ได้รับ ในส่วนขอ งผลก ระทบกัน ทั้ งประเทศ
ในกิจการหลายๆอย่าง อาจถึงขั้น หยุดชั่ วคราวหรือปิ ดตัวลง แต่ว่า ในช่วงเวลา ที่ สิงที่ไม่ดีจะผ่านผ้นไป ขอให้ทุกึคน มีศรัทรา และ สามั คคี เรื่อง ที่ว่าแย่ ยังไงก็ต้องแก้ไขได้
ทั้งนี้ ในส่วน ของทางรัฐบาลได้มีการออกนโยบาย และม าตรการมาหลายมา ตรการเพื่อช่วยเห ลือประชาชน แต่ทว่า ในส่วน ของการช่วยเห ลือนั้น ยังมี บางส่วนที่ ยังไม่ได้รับก ารช่วยเหลือ
ตรงงนี้ดีกว่าแน่นอน ถ้าเกิดว่า การช่วยเหลือ ในส่วนของโครการ ได้รับกันแบบทั่วถึงแต่ต้อง มีขั้นตอนที่ถูกต้อง เพราะว่าไม่ว่าจะเป็น ค่าบ้าน ค่ารถ ล่วนแล้ว เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ ธนบัตร ชำระทั้งสิ้น
ล่าสุด ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรั ฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตรั ฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา โพส ต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการได้รับ เงินเยียวย า จากรั ฐบาลในทุกโครงการที่ได้รับความเดื อดร้อนจากวิกฤติcv-19 โดยระบุว่า มีบัตรป ระชาชนไทย ควรได้เงิ นชดเชยเท่ากันทุกคน
1. รัฐบาลไทยใช้ เงินเยียวย า จำนวนมากถึง 1.9 ล้านล้านบา ท คิดเป็น 11.4% ของผลผลิตข องชาติ (GDP) เพื่อแก้วิกฤติ โดยเป็นเงิ นกู้ถึง 1 ล้านล้านบาท ประชาชนไทยทุกคน ต้องร่วมกันเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะต้อ งเก็บภาษีในอนาคตมาใช้คืน
2. รัฐบาลมีเป้าหมายกู้เงิน เพื่อมาชดเชย เป็น เงิ นเยียวย า ประชาชน 600,000 ล้านบ าท และฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบ าท
3. วิธีการจ่าย เงิ นเยียวยาเราไม่ทิ้งกัน ของรั ฐบาล มีเงื่อนไขยุ่งยากมาก ชดเช ยประชาชนแต่ละคนไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน
4. การชดเชยแร งงาน ในระบบประกันสังคมก็ยิ่งยุ่งยากใหญ่ ล่าช้าและไม่เท่าเทียม
5. การชดเชยเกษตรกร หรือเ งิน เยียวย าเกษตรกร กลับชดเชยให้เป็นต่อครอบครัว ซึ่งลักลั่นกับกรณีเยียวยา
6. กรณีนี้ เหตุเกิดจากวิกฤติ ทั่วโลก ประช าชนไทยทุกคนได้รับผลกระทบ รั ฐบาลจึงควรชดเชยและจ่าย เงินเยียวยา ทุกคน เท่ากัน ทันที ไม่ยุ่งย าก ไม่ล่าช้า ไม่มีเงื่อ นไขมาก การให้เงิ นชดเชยไม่เท่ากันนั้นไม่เป็นธรรม